พ.ต.ต.ภคิณ นันบุญ สว.สอบสวน สภ.หนองขาม
อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิต 1
ราย ที่เกิดเหตุบริเวณถนนไร่หนึ่งหนองขาม เป็นห้องแถว ไม่มีชื่อ ปลูกติดๆ
กันเป็นแนวยาวสองฝั่ง ที่บริเวณห้องเลขที่ 189/37
หมู่ 5
ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา
ที่เกิดเหตุพบประตูห้องถูกล็อคจากด้านใน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัยทำการงัดประตูห้อง เพื่อเข้าไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบภายในห้องพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายพิพรรคราช สุวรรณ อายุ 40 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 96 ม.10 ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่บนที่นอน ห่มผ้าห่มอยู่ ที่บริเวณมือขวากำโทรศัพท์มือถือ
จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเสียบสายชาร์จคาอยู่
จากการตรวจสอบสภาพศพเขียวช้ำแต่ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย
แต่พบปลั๊กไฟมีสายชาร์จเสียบคาโทรศัพท์มือถือ และขวดสุรา จำนวน 1
ขวด วางอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
สอบถาม น.ส.เรไร ไชยอำพร อายุ 34 ปี
เพื่อนข้างห้อง กล่าวว่า ปกติแล้วผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่ที่ห้องนี้กับแฟนสาว แต่วันนี้แฟนสาวไม่อยู่ห้อง
จะเห็นก็เพียงแต่ผู้เสียชีวิตคนเดียว
ซึ่งทำงานเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ และล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10
กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิต ได้เลิกงานกลับมาที่ห้อง
พร้อมถือขวดสุรามาจำนวนหนึ่ง เดินเข้าห้องไป โดยตนเองก็ยังทักทายอยู่เลยว่า
เลิกงานแล้วหรือ หลังจากที่พูดคุยเสร็จผู้เสียชีวิตก็ได้เดินเข้าห้องไป
น.ส.เรไร กล่าวต่อว่า จนกระทั่งเวลาผ่านมา
ตลอดทั้งวันนี้ตนเองก็ยังไม่เห็นผู้เสียชีวิต ออกมาจากห้องเลย
ซึ่งไฟในห้องก็ปิดอยู่ตั้งแต่เช้า จนตกดึกไฟในห้องยังไม่เปิด ตนเองจึงโทรศัพท์มือถือไปหาแฟนสาวของผู้เสียชีวิต
สอบถามว่าเป็นอะไรหรือไม่ หลังจากนั้นตนเองและเพื่อนบ้านจึงได้มาเคาะประตูเรียก
ซึ่งเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิด
จึงได้แจ้งให้เจ้าของห้องเช่าทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยมาช่วยเหลือ
จนพบว่านายพิพรรคราช เสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
พร้อมสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า
สาเหตุน่าจะเกิดจากเสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ และเกิดไฟฟ้าดูด
จนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัยนำศพส่งโรงพยาบาลแหลมฉบังเพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
ก่อนให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศพตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น: