ที่ศูนย์
ศูนย์เอกซเรย์ ศุลกากรแหลมฉบัง ตั้งอยู่ภายในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา
อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร
ได้เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว จับกุมสินค้าผ่านแดน “เมล็ดฝิ่น”
น้ำหนัก 170 ตัน มูลค่าของกลางกว่า 25
ล้านบาท ซึ่งสินค้าเมล็ดฝิ่นที่ตรวจพบมีสารเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5
ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
พร้อมด้วยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจยาเสพติด
(บช.ปส.) ด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง ด่านอาหารและยาท่าเรือแหลมฉบัง
และท่าเรือแหลมฉบัง
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากร
มีนโยบายในการปราบปรามสินค้านำเข้า-ส่งออก และผ่านแดน หลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อจำกัด
การกระทำผิดกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง
จึงได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
กองบัญชาการตำรวจยาเสพติด (บช.ปส.) ด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง
ด่านอาหารและยาท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจสอบตู้สินค้าผ่านแดน ตามใบขนสินค้าผ่านแดน จำนวน
6 ตู้คอนเทนเนอร์ สำแดงชนิดสินค้าเป็น WHITE POPPY
SEEDS ปริมาณ 6,799
กระสอบ น้ำหนักโดยประมาณ 169,800 กิโลกรัม ประกอบใบแจ้งการนำผ่านตาม
พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (แบบ พ.ก. 5-1) สำแดงสินค้านำผ่านเป็น
เมล็ดควินัว (Quinoa seed) โดยมีประเทศกำเนิดอัฟกานิสถาน
ต้นทางบรรทุกจากประเทศปากีสถาน ผ่านแดนประเทศไทย (ท่าเรือแหลมฉบัง-ด่านแม่สอด)
ปลายทางประเทศพม่า
โดยจากการเอกซเรย์ตรวจพบสินค้ามีลักษณะเป็นเมล็ดพืชสีขาว
โดยมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าสินค้าอาจเป็นของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าศุลกากร
จึงได้แจ้งกักสินค้าไว้
และทำการชักตัวอย่างให้สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.
และด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ
ผลการตรวจสอบของด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง พบสินค้าดังกล่าว ไม่ใช่เมล็ดควินัว
ดังนั้นใบรับรองสุขอนามัยพืชที่กำกับมากับสินค้าจึงระบุชื่อวิทยาศาสตร์ไม่ถูกต้อง
ในกรณีนี้ผู้ขอนำของผ่านแดนสำแดงชนิดสินค้าไม่ถูกต้องในแบบ พ.ก. 5-1
ตาม พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และผลการตรวจของสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.
พบชนิดสินค้าเป็น “เมล็ดฝิ่น” มีสารกลุ่ม
Volatile เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5
ซึ่งในกรณีผ่านแดนต้องมีใบอนุญาตของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศที่ส่งออกนั้นมาพร้อมกับยาเสพติดและต้องแสดงใบอนุญาตดังกล่าวต่อพนักงานศุลกากร
ทั้งนี้ ผู้ขอนำของผ่านแดนไม่ได้แสดงใบอนุญาตดังกล่าวต่อพนักงานศุลกากรแต่อย่างใด
ซึ่งสินค้าของกลางที่จับกุมได้ในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 25
ล้านบาท
สำหรับสินค้าเมล็ดฝิ่นดังกล่าว
เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560
ถือเป็นการยื่น หรือยอมให้ผู้อื่นยื่นใบขนสินค้าเอกสารหรือข้อมูล
ซึ่งเกี่ยวกับการเสียอากรหรือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติไม่ถูกต้องหรือไม่บริบูรณ์
เพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามหรือข้อจำกัดอันเกี่ยวกับของนั้น อันเป็นความผิดตามมาตรา 202
มาตรา 244 และมาตรา 252
แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดสินค้าของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น: