จากกรณีที่ น.ส.น้ำค้าง (นามสมมุติ)
อายุ 33 ปี แม่ของ ด.ช.คอม อายุ 9
ขวบ ศึกษาอยู่ชั้นประถมวัยปีที่ 3 โรงเรียนวัดใหม่เนินพะยอม ม.3
ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ร้องเรียนว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23
สิงหาคม ที่ผ่านมา ลูกชายตนเองได้ถูก ครูสอนวิชาสังคมศึกษา
ใช้มือตบเข้าที่บริเวณใบหน้าและศีรษะ ในขณะเดียวกันก็ได้ผลักลูกชายตน ล้มลงกับพื้น
ก่อนที่จะใช้เท้ากระทืบเข้าไปที่บริเวณต้นขาขวา
ระหว่างนั้นรองเท้าของครูโหดดังกล่าว ได้หลุดออก
ครูก็ได้หยิบรองเท้าทุบตีเข้าที่บริเวณแผ่นหลังของลูกตนอีกหลายครั้ง จนบาดเจ็บ
ในขณะเดียวกันทางด้าน น.ส.ภา ครูสาวสอนสังคม ก็ได้ออกมาโต้สื่อกลับว่า
เด็กต้องการเป็นนักร้อง ในงานกิจกรรม แต่ถูกครูปฏิเสธ
จนเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้นมาเพื่อทำให้ครูเสียหาย
อีกทั้งครูยังยืนยันอีกว่าไม่ได้ลงมือทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนในชั้นเรียนแต่อย่างใด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เมื่อวันที่ 26
สิงหาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว ที่บริเวณ สภ.แหลมฉบัง ร.ต.อ.หญิง
ศุภรัตติยา อุ้ยหา รอง สว.(สอบสวน) สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ได้มีเรียกตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาสอบปากคำเพิ่มเติม
โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด มีการโต้เถียงกันทั้งสองฝ่ายในนระหว่างสอบปากคำ
โดยทางด้าน ร.ต.อ.หญิง ศุภรัตติยา จึงได้มีการห้ามปราม
ก่อนที่ทางฝ่ายผู้ปกครองจะอยู่ในภาวะสงบสติอารมณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1
ชั่วโมง จนสอบปากคำทั้งสองฝ่ายแล้วเสร็จ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนัดหมายในวันที่
3 กันยายน 62นี้
เพื่อสอบปากคำเด็ก โดยจะมีพนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่อีกหลายฝ่าย
หลังจากนั้นก็จะทำเรื่องส่งสำนวนฟ้องร้องกันต่อไป
ในขณะเดียวกันหลังจากที่เสร็จสิ้นการสอบปากคำแล้ว
ทางด้านฝ่ายผู้ปกครองของ ด.ช.คอม ก็ได้พยายามเดินเข้าไปสอบถามถึงข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว
แต่กลับถูก น.ส.ภา ครูสาว เดินหนีขึ้นรถยนต์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ทามกลางความวุ่นวาย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่เข้ามาห้ามปรามเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องทำร้ายร่างกายกัน ขึ้นมาในสถานีตำรวจ
ด้าน น.ส.น้ำค้างผูปกครองเด็ก กล่าวว่า
วันนี้ตนไม่พอใจกับคำให้การของ น.ส.ภา ครูสอนสังคม เป็นอย่างมาก
เพราะวันที่เกิดเหตุ ตนก็เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง
ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้มีการนัดให้มาพูดคุยกัน แต่ในวันนั้น ครูไม่ได้พูดแบบนี้
ได้แต่ยืนยันอย่างเดียวว่า ไม่ได้ทำ
กระทั่งตนได้นำหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ และวันนี้ก็กลับมาพูดว่า
ลูกชายตนต้องการเป็นนักร้อง โดยตนเลี้ยงลูกมา 9 ปี
ตนรู้ว่าลูกตนนิสัยเป็นอย่างไร ลูกตนไม่เคยกล้าแสดงออก เคยขึ้นเวทีไปเต้น
ก็ได้แต่ยืนร้องไห้กัดนิ้วตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่เชื่อแน่นอน
อย่างไรก็ตามก็ยังคงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะรับไม่ได้รับกลับพฤติกรรมของครูที่ทำเช่นนี้
ไม่มีความคิดเห็น: