พ.ต.ท.เทียนชัย
เนื่องจำนงค์ สว.(สอบสวน) สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ได้รับแจ้งว่ารับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนประสานงากับรถยนต์กระบะ
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 คน
เหตุเกิดบริเวณถนนสายศรีราชา-ไร่กล้วย ข้างกำแพงโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ม.2
ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบ
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสองเลนขับขี่สวนทางกัน
เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน งค -2297
ชลบุรี ของโรงพยาบาลแหลมฉบัง อยู่ในสภาพพลิกตะแคงข้าง พังเสียหายยับเยิน
ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ทราบชื่อคือนายยงยุทธ์
แก้วปิ่นทอง อายุ 29 ปี ผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก นางยุภดี
แก้วศรี อายุ 40 ปี และนายอนันท์ โตปั้น อายุ 44 ปี
ผู้โดยสาร ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ทั้ง 3
คนเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแหลมฉบัง ห่างไปประมาณ 20
เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีทอง หมายเลขทะเบียน กบ 2579
ชลบุรี อยู่ในสภาพยางล้อหน้าฝั่งขวาแตก ภายในพบผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ
น.ส.วราพรณ์ นากาอิ อายุ 38 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋ง
ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ เอ็กซ์ไซเตอร์ 150
สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 2กธ -1340
ชลบุรี สภาพพุ่งชนอัดท้ายรถยนต์กระบะ โดยมีนายนที สินไชย อายุ ปี 156 ม.6
หาดท่าเสา อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนกระจายผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี
ณ ศรีราชา, โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา และโรงพยาบาลแหลมฉบัง
จากการสอบถามนายอนันท์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ
พวกตนทั้ง 3 คน ได้ไปรับผลตรวจจากแล็ป ในพื้นที่ ต.บางพระ
อ.ศรีราชา และกำลังจะมุ่งหน้าไปเก็บผลตรวจจากแล็ป ในพื้นที่ชุมชนบ้านนาพร้าว
ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จนกระทั่งมาถึงในที่เกิดเหตุ จู่ๆ
รถยนต์เก๋งก็ได้มีคันดังกล่าว ขับขี่มาจากไร่กล้วย มุ่งเข้าศรีราชา
ได้เบี่ยงรถข้ามเลนเข้ามาประสานงากับรถยนต์กระบะของตน
อย่างแรงจนพลิกตะแคงข้างและทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
ก่อนจะสอบสวนพยานบุคคลและพยานแวดล้อม ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังพบภาพจากกล้องหน้ารถยนต์เก๋ง
สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้โดยรถยนต์เก๋งได้เบี่ยงขวาข้ามเลน
พุ่งชนประสานงากับรถยนต์กระบะ
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่คงต้องรอให้อาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทุเลาลงก่อนจะมีการเรียกตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงก่อนเอาผิดกับผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น: