ที่
วัดหุบบอน ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ผู้สื่อข่าวได้ตามมาดูการปฏิบัติภารกิจของ คุณปัฐติภาร
บุญยี่ อายุ 40 ปี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้
ศรีราชา ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป
และทำงานด้านจิตอาสาแต่งหน้าศพมานานกว่า 7
ปี พร้อมกับ ด.ช.เปี่ยมรักษ์ บุญยี่ บุตรชายวัย 5
ขวบ
ที่ติดตามและเริ่มจดจำจนฝึกฝนการแต่งหน้าผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่อายุเกือบ 4
ขวบ ในการเป็นอาสาคอยแต่งหน้าศพของบิดา
เพื่อให้ผู้เสียชีวิตนั้นดูเป็นธรรมชาติเหมือนกับคนที่นอนหลับปกติไปเท่านั้น โดยคุณปัฐติภาร
ยังสอนเทคนิคในการแต่งหน้าศพให้กับผู้ที่สนใจอยากจะเป็นจิตอาสาเช่นกัน
โดยมีเครือข่ายแล้วกว่า 30 คน
โดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายในการสอน ขอเพียงมีจิตอาสาอยากช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้น
คุณปัฐติภาร
เผยว่า
การทำเช่นนี้เพราะว่าตนเองนั้นเป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมานานและเคยรับศพไปส่งตามวัด
ซึ่งเคยเห็นบางศพหน้าผู้เสียชีวิตนั้นดูเศร้าหมองก่อนที่จะไปเห็นแป้งของลูกในรถเลยนำมาแล้วขออนุญาตทางญาติผู้เสียชีวิตแต่งและหวี่ผมให้ใหม่กับผู้เสียชีวิต
ก่อนที่จะเริ่มทำมาเรื่อยซึ่งทำแล้วก็มีความสุขเมื่อเห็นหน้าผู้เสียชีวิตมีชีวิตชีวาเหมือนคนนอนหลับปกติจึงได้ทำมาตลอดประมาณ
7 ปี
และการตบแต่งหน้าให้กับผู้เสียชีวิตแต่ละเคดก็ยังเป็นการให้ทางญาติผู้เสียชีวิตหายโศกเศร้าไประดับหนึ่งด้วย
และช่วยแบ่งเบาให้กับบางครอบครัวที่ไม่มีกำลังทรัพย์ด้วย
จึงอยากช่วยเหลือเพื่อทำความดีตอบแทนให้กับสังคมตามความสามารถที่ตัวเองมี
คุณปัฐติภาร
กล่าวต่อว่า
ในส่วนเรื่องที่ลูกชายมาช่วยแต่งหน้าให้กับศพนั้น
ก่อนหน้านี้ตนเองไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุที่ไหนก็จะพาลูกชายคนนี้ติดตามไปด้วยตลอด
และเวลาไปแต่งหน้าศพลูกชายก็จะตามไปด้วยตลอดเพราะช่วงนั้นยังไม่เข้าเรียน
ซึ่งเวลาที่ตนเองทำลูกก็จะคอยมองและจดจำจนวันนี้ลูกชายตนเองก็สามารถที่จะร่วมช่วยตนเองแต่งหน้าให้กับผู้เสียชีวิตได้บ้างแล้ว
เช่น รองพื้นหน้า เขียนปาก หวี่ผม และช่วยจัดโลงเตรียมความพร้อม ส่วนลูกชายกลัวหรือป่าวนั้นตนคิดว่าไม่
เพราะลูกชายคนนี้จะติดตามตนเองไปช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บตลอดก่อนจะมาเริ่มช่วยแต่งหน้าผู้เสียชีวิต
ส่วนเรื่องการเรียนนั้น
หากวันไหนลูกต้องไปเรียนตนก็จะพาแต่งตัวแล้วไปส่งที่โรงเรียน
อนุบาลเทศบาลสุรศักดิ์(วัดบ่อวิน)
และหลังเลิกเรียนหากมีเคดแต่งหน้าตามวัดที่ทางญาติติดต่อมาตนก็จะไปรับลูกแล้วพาลูกไปด้วย
โดยไม่ให้เสียเรื่องการเรียนแต่อย่างใด “คุณปัฐติภาร กล่าว”
ไม่มีความคิดเห็น: