ดร. ฉวีวรรณ คำพา
นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เปิดเผยว่า
ปัจจุบันเป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาลทำให้อากาศแปรปรวน
ทั้งอากาศร้อนจัดสลับกับมีฝนฟ้าคะนองทั่วประเทศไทย
บางพื้นที่ต้องเผชิญกับพายุฤดูร้อน และอากาศเย็นในวันเดียวกัน ส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงที่ไม่สามารถปรับตัวได้
ทำให้อัตราการกินอาหารและประสิทธิภาพการผลิตลดลง
จึงมีคำแนะนำในการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรเพื่อเตรียมการป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
การเลี้ยงสัตว์ในโรงเรือนระบบปิดปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำ หรือระบบอีแวป
เกษตรกรต้องควบคุมการทำงานของพัดลมและเยื่อกระดาษหน้าโรงเรือนให้เหมาะสม
อย่าให้ร้อน เย็น หรือชื้นเกินไป ซึ่งจะกระทบต่อสัตว์ทำให้เกิดความเครียด
ควรปรับสภาพภายในโรงเรือนให้สัตว์อยู่สบาย
รวมทั้งควรเตรียมเครื่องสำรองไฟและน้ำมันเชื้อเพลิงให้พร้อมสำหรับกรณีไฟดับ เพื่อให้พัดลมทำงานได้ตามปกติ
และต้องซ่อมแซมหลังคาให้ดีเพื่อป้องกันน้ำฝนที่จะเข้าไปในโรงเรือนได้
ควรปรับปรุงและเสริมความแข็งแรงบริเวณชายคาเพื่อไม่ให้ลมพัดเสียหาย
และต้องจัดเก็บอาหารสัตว์ให้มิดชิด ส่วนการดูแลสัตว์ในโรงเรือนแบบเปิด
ต้องระมัดระวังน้ำฝนที่จะสาดเข้าไปในคอกเลี้ยงที่จะเป็นการเพิ่มความชื้นในโรงเรือน
ด้วยการทำกันสาดหรือปิดผ้าใบเพื่อป้องกันฝนรอบโรงเรือน
อาจต้องเพิ่มพัดลมให้สัตว์โดยเฉพาะกรณีที่อากาศร้อนจัดก่อนเกิดฝนตกเพื่อช่วยระบายอากาศและความร้อนแก่สัตว์
ช่วยลดอุณหภูมิในโรงเรือน ต้องเตรียมน้ำสำหรับสัตว์ให้เพียงพอ
และจัดเตรียมกล่องและไฟกกสำหรับลูกสุกรเพื่อป้องกันความหนาวเย็นในขณะฝนตก
“การดูแลสัตว์ในฟาร์มเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากอากาศที่แปรปรวนทำให้สัตว์ปรับตัวได้ยาก
จึงต้องหมั่นตรวจสอบสุขภาพสัตว์เป็นประจำ
คอยสังเกตการกินได้ของสัตว์ซึ่งช่วยบ่งชี้สุขภาพสัตว์ได้
หากการกินลดลงต้องปรับให้อาหารเท่าที่สัตว์กินได้
อาจแบ่งมื้ออาหารเป็นหลายมื้อและหลีกเลี่ยงการให้อาหารในช่วงที่อากาศร้อนจัด
หากอากาศเปลี่ยนแปลงมากควรผสมวิตามินละลายน้ำให้สัตว์กิน 3-5 วันติดต่อกัน
เพื่อลดความเครียดและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับตัวสัตว์”
การเลี้ยงไก่เนื้อและไก่ไข่ในช่วงอากาศแปรปรวนเช่นนี้
นอกจากต้องดูแลทั้งเรื่องความร้อน ฝน
และความชื้นที่จะสูงขึ้นซึ่งกระทบต่อตัวสัตว์โดยตรงแล้ว
เกษตรกรต้องให้ความสำคัญกับปริมาณก๊าซแอมโมเนียที่เกิดขึ้นในโรงเรือนจะกระทบต่อทางเดินหายใจของไก่
ในโรงเรือนไก่เนื้อหากมีแกลบที่เปียกน้ำต้องนำออกทันทีเพื่อไม่ให้หมักหมมและเปลี่ยนแกลบใหม่ทันที
และต้องหมั่นกลับแกลบถี่ขึ้นประมาณ 3 วันต่อครั้ง
ส่วนไก่ไข่ต้องนำมูลไก่ออกจากโรงเรือนบ่อยครั้งขึ้น
และต้องมีการระบายอากาศที่ดีด้วยการควบคุมความเร็วลมให้เหมาะสม ในโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่แบบเปิดต้องเพิ่มพัดลมด้วย
และต้องจัดเตรียมน้ำและอาหารให้เพียงพอกับไก่
อาจเพิ่มวิตามินละลายน้ำเช่นเดียวกับสุกร
นอกจากนี้
เกษตรกรควรสำรวจพื้นที่รอบฟาร์มและทำการตัดแต่งกิ่งไม้และต้นไม้ให้เรียบร้อย
เพื่อไม่ให้หักโค่นมาโดนหลังคาโรงเรือนหรือสายไฟ
หากโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เป็นโรงเรือนเก่าและไม่แข็งแรง
ต้องหาไม้ค้ำยันเพื่อป้องกันการพังเสียหายจากลมที่พัดแรง
หากโรงเรือนพังจากพายุฝนต้องรีบย้ายสัตว์เข้าเลี้ยงในโรงเรือนหลังอื่นที่ไม่เสียหายโดยเร็ว
ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
ดร. ฉวีรรณ กล่าว อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
และมีฝนตกชุกในหลายพื้นที่ของประเทศ อาจทำให้สัตว์ปีกเกิดความเครียดได้
ส่งผลต่อระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายของสัตว์ปีกต่ำ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด
และสามารถแพร่ระบาดของโรคในสัตว์ปีก เช่น โรคหลอดลมอักเสบ ไข้หวัดนก อหิวาต์
และโรคระบาดสัตว์ปีกอื่นๆ
ไม่มีความคิดเห็น: