กรณีรถโดยสารประจำทางที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ
(รถเมล์เอ็นจีวี) จำนวน 7 คัน ถูกทุบทำลายที่ท่า ซี 3
ของ บริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด หรือ LCIT ภายในท่าเรือแหลมฉบัง
อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 24
ก.พ. ที่ผ่านมา ทางบริษัท ช ทวี จำกัด
(มหาชน)ได้รับสัมปทานจัดหารถเมล์เอ็นจีวีให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ 489
คัน วงเงิน 4,261 ล้าน ส่งมอบลอตแรกให้ ขสมก.ในเดือนมีนาคม
และจะขออนุญาตนำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเข้าไปดูแลรักษารถเมล์เอ็นจีวี
เบื้องต้นประสานงานให้ทหารเข้าไปรักษาความปลอดภัย
ล่าสุด นางสิริมา กีรตยาคม ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานสนับสนุน
ท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยว่า ในตอนนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากบริษัท ช ทวี จำกัด
ในการให้ทหารเข้ามาดูแลในเรื่องขนส่งสินค้าและรักษาความปลอดภัยสินค้าของบริษัทฯแต่ถ้าในส่วนของท่าเรือแหลมฉบังถ้ามีการแจ้งเข้ามาโดยการทำหนังสือทางท่าเรือแหลมฉบังจะรับพิจารณาในเรื่องการนำทหารเข้ามา
แต่ที่สุดแล้วถ้าจะนำทหารเข้าไปถึงในส่วนของท่าเรือเอกชนที่มาขอเช้าพื้นที่นั้น
บริษัทฯจะต้องได้รับอนุญาตจากท่าเทียบเรือรับสินค้านั้นก่อน
ซึ่งในกรณีนี้อาจจะมีบางท่านที่วิตกกังวลในเรื่องของความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยสินค้าของลูกค้าที่ใช้บริการของท่าเรือต้องขอบอกว่าท่าเรือแหลมฉบังเปิดให้บริการมาในปีนี้เป็นปีที่
27 แล้ว
เรามั่นใจว่าสิ่งที่เราปฏิบัติต่อลูกค้าได้วางแนวทางในการปฏิบัติอย่างเป็นมาตรฐานไม่ว่าจะเป็นท่าเรือแหลมฉบังเองหรือท่าเทียบเรือเอกชนน่าจะสร้างความมั่นในการบริการเพราะถ้าดูจากผลประกอบการที่ผ่านมาถือว่าเราพัฒนาขึ้นมากรวมทั้ง
ณ ตอนนี้ยังไม่มีลูกค้ารายใดเข้ามาสอบถาม
เราหวังว่าในเรื่องนี้ไม่น่าจะทำให้ลูกค้าขาดความมั่นใจในตัวท่าเรือแหลมฉบัง
ไม่มีความคิดเห็น: