กรณีที่มีชายอายุประมาณ
50 ปี รูปร่างท้วมและผิวคล้ำ
ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบชนิดและยี่ห้อได้เข้ามาในพื้นที่หมู่ 3 ต.เสม็ด หลังจากนั้นได้เรียกชื่อคนภายในบ้าน
โดยชายคนดังกล่าวมีรายชื่อผู้อาศัยอยู่ในบ้านทุกหลังคาเรือนที่ไปพบ
และเรียกชื่อได้ถูกต้อง โดยอ้างว่าจะมาสำรวจผู้ที่มีรายได้น้อย และเงินจำนวน 3,000 บาทที่รัฐบาลจะให้ผู้มีรายได้น้อยมาแล้ว ขอให้นำสำเนาบัตรประชาชน
ลงลายมือชื่อให้ด้วย เพื่อความสะดวกในการรับเงินช่วยเหลือ
สร้างความปั่นป่วนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ 3 ตำบลคือ เสม็ด
ห้วยกะปิ และอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ทำให้ชาวบ้านที่มอบสำเนาบัตรประชาชน
ลงลายมือชื่อให้กับชายคนดังกล่าวไปต้องมาแจ้งความที่ สภ.เสม็ด มากกว่า 10 คน หลังจากนั้น นายวินัย พ้นภัยพาล กำนันตำบลเสม็ด
ได้ทำสำเนาชายผู้ต้องสงสัยแจกไปทั่วทั้ง 3
ตำบลหากพบให้แจ้งความองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสถานีตำรวจใกล้เคียงทราบ
จะได้นำตัวบุคคลที่ต้องสงสัยว่าสำรวจไปทำอะไร
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ทั้งชายและหญิงผู้สูงอายุวัย 65 ปี
ได้เดินทางมาที่ สภ.เสม็ด พร้อมทั้งกล่าวว่า เห็นมีข่าวออกไป
ตกใจเพราะได้มอบสำเนาบัตรประชาชน ลงลายมือชื่อให้กับชายคนดังกล่าวไป เกรงว่าจะไปทำให้เกิดความเสียหาย
ครั้งแรกมาสอบถามก็ดีใจว่าได้เงินช่วยเหลือคนจน เพราะคนในบ้านมีทั้งหมด 3 คนที่ลงทะเบียนแต่ตนเองได้เพียงคนเดียว ก็หวังจะได้เงิน เพราะอายุ 65 แล้วไม่รู้ว่าจะถูกให้ออกจากงานเมื่อไหร่ พอทราบข่าวจึงได้มาแจ้งความ
เพราะกลัวจะถูกหลอกเหมือนกัน
หลังจากนั้นกำนันตำบลเสม็ด
พร้อมด้วยนางหทัยทิพย์ อ้วนศรี เจ้าหน้าที่สถิติจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมาที่
สภ.เสม็ด พร้อมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การลงทะเบียนคนจนดังกล่าวมีจริง
ได้มีการว่าจ้างให้ทางสำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) จ.ชลบุรีดำเนินการ
โดยจะมีการเดินสำรวจทั่วประเทศโดยใช้แบบฟอร์มทั้งหมด 2 หน้าในการสอบถามรายละเอียด
ทำให้ประชาชนที่มาแจ้งความเข้าใจและได้มีการถอนแจ้งความทั้งหมด 10 กว่าราย
ทางด้านนายวินัย
พ้นภัยพาล กำนันตำบลเสม็ดกล่าวว่า
ปัญหาดังกล่าวเกิดจากเจ้าหน้าที่สำรวจประชาชนที่มีรายได้น้อยลงพื้นที่สำรวจแต่ไม่ยอมติดบัตรประจำตัว
รวมทั้งไม่แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ
เลยทำให้ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกหลอกลวง
ประกอบกับคนที่มาทำแบบสำรวจขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์
และแต่งตัวเหมือนกับคนเก็บเงินกู้นอกระบบ
จึงได้เกิดความกลัวและเดินทางมาแจ้งความทำให้เกิดความปั่นป่วนดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น: